ลักษณะพันธุ์ของปลาทอง

การพัฒนาทางด้านการเพาะพันธุ์   มีการคัดเลือกลักษณะเด่นที่ต้องการ  แล้วนำมาเพาะพันธุ์ต่อมาเรื่อยๆ   ทำให้ได้ปลาทองที่มีลักษณะและสีสันสวยงามหลายแบบด้วยกัน   และมีการตั้งชื่อพันธุ์ต่างๆไว้ดังนี้
4.1 ปลาทองที่มีหางเดี่ยว อาจเรียกหางปลาทู หรือหางแฉก (Fork  Tail) ลักษณะหางเป็นแผ่นแบนกว้าง เว้าตรงกลางหรือเป็น  2  แฉก   มีสายพันธุ์ที่นิยม  2  สายพันธุ์ คือ
4.1.1 พันธุ์โคเมท(Comet) เป็นปลาทองสายพันธุ์ดั้งเดิมหรือต้นตระกูลของปลาทอง ลักษณะลำตัวค่อนข้างแบนยาวคล้ายปลาไน ลำตัวมักมีสีแดง สีแดงสลับลขาวหรือสีทอง ปัจจุบันไม่ได้รับความนิยม
http://footballwmn.blogspot.com/
4.1.2 พันธุ์ชูบุงกิง(Shubunkin) ลักษณะคล้ายพันธุ์โคเมท แต่จะมีจุดประที่ลำตัวหลายสี เช่น สีแดง สีขาว สีม่วง สีส้ม และสีดำ  เกล็ดจะค่อนข้างใส จัดเป็นปลาทองที่สวยงามมากชนิดหนึ่ง เนื่องจากมีสีเด่นหลายสี สดใส ได้รับความนิยมมากในสมัยก่อนและมีการตั้งชื่อไว้หลายชื่อ เช่น Speckled Goldfish,Harlequin  Goldfish,Vermilion  Goldfish หรือ Coronation  fish 
http://zukan.kids.yahoo.co.jp/pet/fish/fishTa/
.
4.2 ปลาทองที่มีหางคู่ คือมีส่วนหางแยกออกเป็น 3 - 4 แฉก มีทั้งที่มีครีบหลังตามปกติ หรือบางชนิดไม่มีครีบหลัง มีที่ได้รับความนิยมหลายสายพันธุ์ ดังนี้

4.2.1 พันธุ์ออแรนดา(Oranda) สมัยก่อนมักเรียกฮอลันดา หรือฮอลันดาหัวแดง ลักษณะลำตัวค่อนข้างยาว มีครีบครบทุกครีบ หางยาว และมีลักษณะเด่นคือมีวุ้นที่ส่วนหัว (Hood) คล้ายพันธุ์หัวสิงห์ แต่มักไม่ขยายใหญ่เท่าหัวสิงห์ สีของวุ้นมักออกเป็นสีเหลืองส้ม เป็นปลาทองที่มีขนาดใหญ่ และมีความสวยงามมากชนิดหนึ่ง สีของลำตัวมักออกสีขาวเงิน ชาวญี่ปุ่นเรียก Oranda Shishigashira
http://www.2chins.com/Nature/Gold%20Fish/index.html
4.2.2 พันธุ์ริวกิ้น(Ryukin or Veiltail ) ลักษณะเด่น คือ เป็นพันธุ์ที่มีหางค่อนข้างยาวเป็นพวงสวยงามเป็นพิเศษ คล้ายริบบิ้นหรือผ้าแพร ทำให้มีชื่อเรียกได้หลายชื่อ คือ  Fringetail,Ribbontail,Lacetail,Muslintail และ Japanese Fantail ในขณะที่ว่ายน้ำครีบหางจะบานเป็นสง่า ลำตัวค่อนข้างกลมสั้น และมักมีสีแดงสลับขาว บางชนิดอาจมี 5 สี  เป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก     
https://sirinual.wordpress.com/
.
4.2.3 พันธุ์ตาโปน(Telescope-eyed Goldfish) อาจเรียก Pop-eye Goldfish ชาวจีนนิยมเรียก Dragon Eyes ชาวญี่ปุ่นเรียก Aka Demekin ซึ่งแปลว่าตาโปนเช่นกันลักษณะเด่นของพันธุ์ คือ ลูกตาจะยื่นโปนออกมามากเหมือนท่อกล้องส่องทางไกล พันธุ์ตาโปนที่นิยมเลี้ยงมี 5 ชนิด คือ
  • พันธุ์ตาโปนสีแดง(RedTelescope-eyed Goldfish) มีสีแดงตลอดตัว ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น
http://footballwmn.blogspot.com/
  • พันธุ์มัว(Moor)หรือเล่ห์(Black Moor or Black Telescope-eye  Goldfish) เป็นพันธุ์ที่รู้จักดีในประเทศไทยในชื่อ เล่ห์ หรือ ลักเล่ห์  ลักษณะเด่น คือ ลำตัวมีสีดำสนิทตลอด ตาจะไม่โปนมากนัก ชาวญี่ปุ่นเรียกพันธุ์นี้ว่า Kuro Demekin 
http://footballwmn.blogspot.com/
  • พันธุ์ตาโปนสามสี(Calico Telescope-eye Goldfish) รู้จักกันดีในประเทศไทยว่าลักเล่ห์ห้าสี เป็นพันธุ์ที่มีเกล็ดค่อนข้างบาง ลำตัวมีสีสันหลายสีสดเข้มและมักมีเพียง 3 สี แต่สีที่พบในพันธุ์นี้จะมี 5 สี คือ สีแดง สีขาว สีดำ สีน้ำตาลออกเหลือง และสีแดงออกม่วง ชาวญี่ปุ่นเรียกพันธุ์นี้ว่า Sanshoku Demekin
http://footballwmn.blogspot.com/
  • พันธุ์ตาลูกโป่ง(Bubble Eye Goldfish) ลักษณะเด่น คือ มีเบ้าตาพองออกคล้ายลูกโป่งทั้งสองข้าง เวลาว่ายน้ำมักจะแกว่งไปมา ลำตัวมักมีสีขาวหรือเหลืองแกมส้ม มีทั้งที่มีครีบหลังและไม่มีครีบหลัง  
http://www.ratemyfishtank.com/fish-name/hoplarchus-psittacus

  • พันธุ์ตากลับ(Celestial Goldfish) ลักษณะเด่น คือ ตาที่โปนออกมาจะหงายกลับขึ้นข้างบน ชาวจีนเรียกว่า Shotengan แปลว่าตามุ่งสวรรค์ หรือตาดูฟ้า ต่อมาชาวญี่ปุ่นนำไปเลี้ยงและพัฒนาได้หางสั้นกว่าเดิม เรียก Demeranchu 
http://footballwmn.blogspot.com/
4.2.4 พันธุ์เกล็ดแก้ว(Pearl Scale Goldfish) ลักษณะลำตัวค่อนข้างกลมคล้ายลูกปิงปอง ส่วนหัวเล็กมาก หางยาว ลักษณะเด่น คือ มีเกล็ดนูนขึ้นมาต่างกับเกล็ดธรรมดาทั่วไปอย่างชัดเจน สีของลำตัวมักมีสีขาว สีส้ม และสีทอง     
http://footballwmn.blogspot.com/
4.2.5พันธุ์หัวสิงห์(Lionhead Goldfish or Ranchu) ลักษณะเด่นของพันธุ์นี้คือ ไม่มีครีบหลัง หางสั้นและเป็นครีบคู่ ที่สำคัญคือ ส่วนหัวจะมีก้อนวุ้นปกคลุมอยู่ ทำให้มีชื่อเรียกได้อีกหลายชื่อ เช่น Hooded Goldfish,Buffalo-head Goldfish ส่วนในญี่ปุ่นเรียก Ranchu  ในประเทศไทยเรียกกันโดยทั่วไปว่า หัวสิงห์ เป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน และนิยมจัดประกวดกันเป็นประจำ จนอาจเรียกได้ว่าเป็นเจ้าพ่อของปลาทอง (King of The Goldfish) มีอยู่หลายชนิดที่นิยมเลี้ยง ได้แก่
  • สิงห์ญี่ปุ่น เป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ลักษณะทั่วไปคือลำตัวค่อนข้างสั้นและส่วนหลังโค้งมนสวยงามสีของลำตัวเป็นสีส้มเข้มเหลือบทองต้องตาวุ้นที่ส่วนหัวมีลักษณะเล็กละเอียดขนาดไล่เลี่ยกันและค่อนข้างหนา ครีบหางสั้นและจะยกสูงขึ้นเกือบตั้งฉากกับลำตัว ครีบก้นเป็นครีบคู่มีขนาดเท่ากัน  
http://footballwmn.blogspot.com/
  • สิงห์จีน เป็นพันธุ์ต้นตระกูลของหัวสิงห์ กำเนิดในจีน ลำตัวค่อนข้างยาว ส่วนหลังไม่โค้งมากนักหางค่อนข้างยาวอ่อนลู่ หัวค่อนข้างใหญ่และมีวุ้นดกหนากว่าสายพันธุ์อื่น และทางด้านท้ายของวุ้นไม่ขรุขระ ทำให้มองเหมือนหัวมีขนาดใหญ่กว่าลำตัว สีของลำตัวเป็นสีส้มแกมทองแต่ไม่สดมากนัก 
    http://footballwmn.blogspot.com/
     
  • สิงห์หัวแดง สิงห์ตันโจ ลักษณะทั่วไปคล้ายสิงห์ญี่ปุ่น แต่สีของลำตัวเป็นสีขาวเงิน ส่วนหัวและวุ้นจะมีสีแดง
    http://footballwmn.blogspot.com/

  • สิงห์ตามิด ลักษณะทั่วไปคล้ายสิงห์ญี่ปุ่น แต่สีของลำตัวเป็นสีดำสนิทตลอดลำตัว แม้กระทั่งวุ้นก็เป็นสีดำ วุ้นค่อนข้างดกหนาจนปิดลูกตาแทบมองไม่เห็น
    https://th.wikipedia.org/
  • สิงห์ห้าส ลักษณะทั่วไปคล้ายสิงห์จีน แต่มีสีบนลำตัว สี คือ สีดำ สีแดง สีขาว สีน้ำเงินและสีเหลือง เกล็ดค่อนข้างบางโปร่งใส
    http://2g.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J5302979/J5302979.html
  • สิงห์เงิน ลักษณะทั่วไปคล้ายสิงห์หัวแดง มีสีของลำตัวเป็นสีขาวเงิน แต่ส่วนหัวและวุ้นจะมีสีเงินด้วย
    http://www.siamensis.org/webboard/topic/7757




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น